Page 32 - 005
P. 32

20

                       การเขียนบทนำตามคู่มือฉบับนี้ยังต้องคำนึงถึงการกำหนดประเด็นหลัก ๆ การจัดลำดับข้อมูลและ
               เนื้อหา การเขียนที่มีความชัดเจนและกระชับ และการสรุปที่ดี รวมทั้งการอ้างอิงแหล่งที่มาอย่างเหมาะสม

               และน่าเชื่อถือ เป็นสิ่งสำคัญที่ผู้เขียนต้องใช้ความเข้าใจและจำเป็นต้องศึกษาเพิ่มเติม ซึ่งมีข้อเสนอแนะ
                                        ื
               สำหรับการเขียนบทนำของคู่มอปฏิบัติงานตามเทคนิคการเขียนแบบพีระมิดกลับหัว (ภาพที่ 4-1) ดังนี้



                       เชื่อมโยงวิสัยทัศน์ พันธกิจ   ➢ ย่อหน้าที่ 1 เชื่อมโยงวิสัยทัศน์ พันธกิจ ของหน่วยงาน มายังงานที่ปฏิบัติ
                        ของหน่วยงาน/องค์กร
                           สู่งานที่ปฏิบัติ   ➢ ย่อหน้าที่ 2-3  จากงานที่ปฏิบัติเชื่อมโยงมายังงานในคู่มือฉบับนี้
                                                 กล่าวให้เห็นถึงความเจ็บปวด ว่าทำไมต้องเขียนคู่มือฉบับนี้ ไม่ได้กล่าวถึง
                       เชื่อมโยงจากงานที่ปฏิบัติ   ความสำคัญของงานที่ทำเพียงอย่างเดียว แต่หากต้องเขียนว่าถ้ามีคู่มือนี้
                          สู่คู่มือปฏิบัติงาน    จะดีอย่างไร หากไม่มีคู่มือฉบับนี้ จะยุ่งยากเพียงใด ควรเน้นหลักฐาน
                         มีการตรวจเอกสาร         เชิงวิชาการที่เกี่ยวข้อง ที่เป็นรูปธรรม เป็นประจักษ์ (ที่เป็นทั้งข้อมูล
                            มีการอ้างอิง
                                                 เชิงปริมาณและเชิงคุณภาพ) และควรแทรกการอ้างอิงในส่วนที่อ้างถึง
                        สรุปที่มาและความสำคัญ    ไม่ว่าจะเป็นกฎ ระเบียบ ข้อบังคับ บทความทางวิชาการที่เกี่ยวข้อง
                        เชื่อมโยงกับผลประโยชน  ์  ➢ ย่อหน้าที่ 4 สรุปว่า จากที่มาและความสำคัญข้างต้น จึงจำเป็นต้องทำคู่มือ
                       ที่ได้รับสอดคล้องกับพันธกิจ


               ภาพที่ 4-1 แนวทางการเขียนบทนำของคู่มือปฏิบัติงานตามเทคนิคการเขียนแบบพีระมิดกลับหัว

                       ย่อหน้าที่ 1 เชื่อมโยงจากวิสัยทัศน์ พันธกิจ หรือภารกิจของหน่วยงานหรือองค์กร มายังงานที่

               ปฏิบัติ โดยเขียนให้มีความต่อเนื่องของเรื่องราวในภาพรวมของหน่วยงานหรือองค์กร ไปยังบทบาทและ
               หน้าที่ที่ตนเองปฏิบัติอยู่ในตำแหน่งนั้น ๆ
                       ย่อหน้าที่ 2-3 เชื่อมโยงจากงานที่ปฏิบัติไปยังงานหลักในคู่มือฉบับนี้ โดยกล่าวให้เห็นถึง
               ความเจ็บปวดของการปฏิบัติงานว่าทำไมต้องเขียนคู่มือฉบับนี้ ซึ่งไม่ได้เขียนถึงความสำคัญของงานที่ทำ

               เพียงอย่างเดียว แต่หากต้องเขียนให้เห็นว่าถ้ามีคู่มือฉบับนี้ประกอบการปฏิบัติงาน จะส่งผลดีอย่างไรกับ
               หน่วยงานหรือองค์กร แต่หากไม่มคู่มือฉบับนี้ประกอบการปฏิบัติงาน จะเกิดความยุ่งยากเพียงใด
                                           ี
                       ส่วนสำคัญประการหนึ่งที่ผู้เขียนต้องคำนึงถึง คือ การอธิบายที่เน้นหลักฐานเชิงวิชาการ

               ที่เกี่ยวข้อง หลักฐานที่เป็นรูปธรรมหรือเห็นเป็นเชิงประจักษ์ ทั้งที่เป็นข้อมูลเชิงปริมาณและเชิงคุณภาพ
               ประกอบการบรรยายด้วย เพื่อสนับสนุนหรือเพมน้ำหนักที่จะเป็นคู่มือปฏิบัติงานเพอเป็นผลงานในการขอ
                                                                                   ื่
                                                      ิ่
               กำหนดตำแหน่งที่สูงขึ้น ดังนั้นจึงต้องมีการแทรกการอ้างอิงในเนื้อหาที่เป็นข้อเท็จจริงที่ผู้เขียนอางองด้วย
                                                                                              ้
                                                                                                 ิ
               ไม่ว่าจะเป็น กฎ ระเบียบ ข้อบังคับ หรือบทความทางวิชาการ เป็นต้น ทั้งนี้ ผู้เขียนต้องเขียนอ้างอิงตาม
               รูปแบบที่ได้มาตรฐานและเป็นไปตามรูปแบบที่หน่วยงานหรือองค์กรกำหนดอย่างเคร่งครัด
                       ย่อหน้าที่ 4 เป็นการสรุปว่าจากที่มาและความสำคัญดังกล่าวข้างต้น จึงจำเป็นต้องจัดทำคู่มือ
               ปฏิบัติงาน เรื่อง ....(ใส่ชื่อคู่มือ)...... ฉบับนี้ขึ้น และหากมีคู่มือปฏิบัติงานฉบับนี้ประกอบการปฏิบัติงาน
               ในหน่วยงานหรือองค์กรแล้วจะส่งผลดีอย่างไร เป็นประโยชน์อะไรบ้างกับองค์กร (สามารถนำประโยชน์

               ที่คาดว่าจะได้รับ สรุปมาใส่ไว้ในส่วนนี้ได้) โดยประโยคสุดท้ายสามารถเขียนให้เชื่อมโยงกลับไปสู่วิสัยทัศน์
               พันธกิจ หรือภารกิจของหน่วยงานหรือองค์กรตามย่อหน้าแรกทเขียนไว้ได้
                                                                   ี่







                                                                        ี
                                        จรงค์ศักดิ์ พุมนวน  รวีวรรณ ขำพล และ ทวพงษ์ ยุนุ๊
   27   28   29   30   31   32   33   34   35   36   37