Page 35 - 003
P. 35
อวัยวะสัมผัส (Sensory organs) ไดแก หู ตา จมูก ปาก ตา ลิ้น ผิวหนัง
ั
ประสาทสัมผส (Receptors)
ประสบการณ์ (Previous experience)
ความตั้งใจ (Attention)
ทัศนคติและคานิยม (Attitude and Value)
อารมณ์ (Emotion)
สติปัญญา (Mental abilities)
การรับรูแบงออกเป็นกฎยอย 6 ประการ คือ
1.1 กฎแหงความชัดเจน (Clearness) การเรียนรูที่ดีตองมีความชัดเจนและแนนอน
เพราะผูเรียนมีประสบการณ์เดิมแตกตางกัน ฉะนั้นการมองเห็นหรือการเขาใจจะมีความ
แตกตางกันขึ้นอยูกับประสบการณ์ของแตละคนคลายกับการมองภาพเดี่ยวกันแตเขาใจไม
เหมือนกัน
1.2 กฎแหงความคลายคลึง (Law of Similarity) เป็นการวางหลักการรับรูในสิ่งที่
คลายคลึงกันเพื่อจะไดรูวาสามารถจัดเขากลุมเดียวกัน
1.3 กฎแหงความใกลชิด (Law of Proximity) เป็นการกลางถึงวาถาสิ่งใดหรือ
สถานการณ์ใดที่มีความใกลชิดกัน ผูเรียนมีแนวโนมที่จะรับรูสิ่งนั้นไวแบบเดียวกัน
1.4 กฎแหงความตอเนื่อง (Law of Continuity) สิ่งเราที่มีทิศทางในแนวเดียวกัน
ซึ่งผูเรียนจะรับรูวาเป็นพวกเดียวกัน
1.5 กฎแหงความสมบูรณ์ (Law of Closer) สิ่งเราที่ขาดหายไปผูเรียนสามารถ
รับรูใหเป็นภาพสมบูรณ์ไดโดยอาศัยประสบการณ์เดิม
1.6 กฎแหงการสิ้นสุด (Law of Closure) แมเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจะยังไมเสร็จ
สมบูรณ์ คนที่มีประสบการณ์แลวพอจะรับรูไดวาผลที่จะเกิดขึ้นตอนจบจะเป็นอยางไร
2. การหยั่งรู (Insight) การเรียนรูดวยตนเอง การแกปัญหาอยางทันทีทันใดที่เกิดขึ้น ณ
เวลานั้น เป็นการมองเห็นแนวทางตั้งแตจุดเริ่มตนเป็นขั้นเป็นตอนจนสามารถแกปัญหาได การหยั่งรู
เป็นความเขาใจในเหตุการณ์ บางครั้งอาจเคยมีประสบการณ์มากอน ท าใหสามารถแกปัญหากับ
์
เหตุการณ์ใหมที่เกิดมากะทันหันได (มัณฑรา ธรรมบุศย สืบคนจาก http://www.bannjomyut.com
./library/intellectual สืบคน 22/10/2020)
ตัวอยาง ความนาสนใจของกฎแหงการเรียนรูของกลุมเกสตัลท์ คือมีนักวิจัยอยาง ลีเปอร์
(Leeper, 1935) ไดน ากฎของกลุมเกสตัลท์มาเป็นเครื่องมือในการเรียนรู เชน การน ากฎแหงความ
~ 27 ~