Page 39 - 003
P. 39

8.   วัสดุอุปกรณ์มีตามธรรมชาติ ไม฽ได฾เน฾นเฉพาะในห฾องเรียน มีมุมต฽างๆให฾เด็กได฾เรียนรู฾ มี

                   อิสระทางความคิด สามารถดัดแปลงวัสดุในธรรมชาติมาเป็นของเล฽นได
                                                                                ฾
                          9.   เด็กได฾เรียนรู฾ร฽วมกันทั้งเพศหญิงและเพศชาย สามารถท าได฾ทุกอย฽าง เพื่อให฾ปรับตัว

                   เข฾ากันได฾ มีความร฽วมมือ

                                                                           ์
                          โรงเรียนแนววอลดอร์ฟ ออกแบบการศึกษาแบบไม฽มีศูนยรวมแต฽คอยสนับสนุนทรัพยากรใน
                   ลักษณะแบ฽งปันกัน เช฽น เอกสารวิชาการ การจัดประชุม และอื่นๆในลักษณะ 3 H (Head, Heart,

                   Hand) การสอนโดยใช฾สื่อทางศิลปะที่ท าด฾วยมือ ของเล฽น เครื่องดนตรี สื่อภาษา เกม วรรณกรรม
                   และการท ากิจกรรม การสอนแบบไม฽มีกิจกรรมการแข฽งขัน ไม฽มีการให฾คะแนน ใช฾แบบบันทึกเป็นการ

                   ประเมินตัวเด็ก



                                                                ี
                   10. ทฤษฏีการเรียนรู้ของดร. สาโรช บัวศร
                          ดร.สาโรช บัวศรี, พ.ศ. 2459-2536  นักปรัชญาด฾านวชาการศึกษาของไทย อดีต
                                                                          ิ
                   ผู฾อ านวยการโรงเรียนฝึกหัดครู ผู฾วางรากฐานการศึกษาแห฽งชาติของไทย โดยการน าเอาหลักธรรม

                   ทางพุทธศาสนามาเป็นพื้นฐานในการพัฒนา โดยท฽านมีความมุ฽งหวังว฽านิสิตที่ได฾เรียนจะมีความรู฾

                   “เหมือนนักปราชญ” เป็นผู฾มีศีลธรรม “เหมือนปราชญ์ผู฾ทรงศีล” แนวการสอนที่ให฾ความส าคัญกับ
                                   ์
                   การจัดการศึกษาที่เป็นการจัดประสบการณ์ที่เหมาะสมให฾กับผู฾เรียนเพื่อให฾ผู฾เรียนงอกงามด฾วยการ

                   จัดการเรียนรู฾ตามวิถีพุทธด฾วยหลักอริยสัจ 4 ประกอบด฾วย
                          1.  ทุกข์  หมายถึง ความทุกข์ ที่เป็นปัญหาให฾กับชีวิต

                          2.  สมุทัย  หมายถึง สาเหตุทั้งหลายทั้งปวงที่ท าให฾เกดทุกข์ ได฾แก฽ ตัณหาหรือความอยาก
                                                                          ิ
                          3.  นิโรธ  หมายถึง หนทางในการดับทุกข์ เป็นหนทางในการปลดทุกข์
                          4.  มรรค  หมายถึง การปฏิบัติต฽างๆด฾วยตนเองเพื่อให฾พ฾นทุกข์ มีแปดประการ

                          โดยใช฾ควบคไปกับแนวทางปฏิบัติที่เรียกว฽า “กิจในอริยะสัจ 4” ประกอบด฾วย ปริญญา (การ
                                     ู฽
                   ก าหนดรู฾) ปหานะ (การละ) สัจกิริยา (การท าให฾แจ฾ง) และการภาวนา (การลงมือปฏิบัต) ขั้นทุกข์
                                                                                               ิ
                   คือขั้นก าหนดปัญหาที่ต฾องแก฾ไข ขั้นสมุทัยคือการวิเคราะห์หาปัญหาหรือสาเหตุด฾วยการตั้ง

                                 ิ
                   สมมุติฐาน ขั้นนโรธคือขั้นก าหนดวัตถุประสงค์และวิธีการทดลองในการพิสูจน์และรวบรวมข฾อมูล ขั้น
                   มรรคคือขั้นการน าข฾อมูลมาวิเคราะห์และสรุปผล

                          การสอนที่ดีควรเป็นการสอนด฾วยการใช฾วิธีการแก฾ปัญหา 4 ขั้นคือ

                          1.  การก าหนดปัญหา คือ ขั้นทุกข์

                          2.  การตั้งสมมุติฐาน  คือ สมุทัย
                          3.  การทดลองปฏิบัต  คือ นิโรธ
                                             ิ
                          4.  การวิเคราะห์ผลของการทดลอง คือ มรรค


                                                           ~ 31 ~
   34   35   36   37   38   39   40   41   42   43   44