Page 29 - 003

ที่มา: https://www.gotoknow.org/posts
สืบค฾น 22/10/2020

ี
กล฽าวโดยสรุปเกี่ยวกับทฤษฏการเรียนรู฾ของบลูม มี 3 ดานคือ ด฾านพุทธิพิสัย ดานจิตพิสัย
฾
฾
และด฾านทักษะพิสัย หรือที่นักวิชาการรุ฽นปัจจุบันเรียกว฽า 3 H (Head สมองหรือปัญญา, Hart ใจ
หรือจิตใจ, Hand ทักษะสัมผัสด฾วยมือหรือการกระท า) โดยแต฽ละด฾านจะมีการจ าแนกออกเป็นระดับ

ต฽างกัน โดยล าดับจากความสามารถระดับต่ าสุดไปสู฽ความสามารถระดับสูงสุด เริ่มตั้งแต฽การเกิด

ความรู฾ทีเป็นพื้นฐานเบื้องต฾น การเกิดความเข฾าใจ การรู฾จักน าไปใช฾ การรู฾จักวิเคราะห์ การรู฾จัก

สังเคราะห์ และล าดับสูงสุดคือการประเมินผล
ดังนั้น การน าการเรียนรู฾ตามทฤษฏีของบลูมไปใช฾ มีข฾อแนะน าดังนี้

ั
1. การเรียนรู฾ของแต฽ละคนมีพื้นฐานการเรียนรู฾ที่ไม฽เหมือนกน บางคนมีความเข฾าใจแตกต฽าง
ไปจากคนอื่น การน าความรู฾ไปใช฾จึงมีความแตกต฽างกัน

2. ผู฾เรียนแต฽ละคนมีลักษณะที่แตกต฽างกัน การส฽งเสริมการเรียนที่ควร ให฾ความรู฾ที่จ าเป็น

ก฽อนเรียน การสร฾างแรงจูงใจก฽อนเรียน คุณภาพของการสอน ทั้งนี้เพื่อเป็นการยกระดับการเรียนรู฾
ให฾สูงขึ้นตามการจัดล าดับ

~ 21 ~