Page 96 - 005
P. 96
84
ตอนที่ 7
เทคนิคการเขียน ส่วนหลังของคู่มือปฏิบัติงาน
เทคนิคการเขียนอ้างอิงในเนื้อหาและรายการบรรณานุกรม
การจัดทำเอกสารทางวิชาการที่มีการเผยแพร่ในรูปแบบต่าง ๆ ได้แก่ บทความทางวิชาการ
รายงายการวิจัย รายงานการวิเคราะห์/สังเคราะห์ วิทยานิพนธ์ คู่มือปฏิบัติงาน รวมทั้งงานเขียนทาง
วิชาการในรูปแบบอื่น ๆ ถือได้ว่า การเขียนอ้างองในเนื้อหาและรายการบรรณานุกรมท้ายเล่มเอกสารเป็น
ิ
องค์ประกอบที่สำคัญ ที่แสดงให้เห็นว่าเป็นผลงานที่มีคุณภาพและยังแสดงถึงการมีจริยธรรมใน
การสร้างสรรค์ผลงานทางวิชาการเหล่านั้นด้วย มักนิยมใช้กันทั้ง “รายการอ้างอิง” และ “บรรณานุกรม”
ิ
ิ
เอกสารอ้างอง หรือรายการอ้างอง (Reference) เป็นรายชื่อของเอกสารทุกชิ้นที่มีการกล่าวถึงใน
เนื้อหา (รายการอ้างอิงที่ปรากฏอยู่ท้ายเล่มต้องมีการอ้างอิงในเนื้อหาด้วย) ขณะที่บรรณานุกรม
(Bibliography) นั้น จะมีขอบเขตที่กว้างกว่า ซึ่งมักจะรวมถึงข้อมูลที่ผู้เขียนอาจนำมาจากเอกสารที่
หลากหลายแล้วมาเรียบเรียงใหม่ โดยไม่ได้ยกเนื้อความบางส่วนเหล่านั้นมาไว้ในเนื้อหาโดยตรง และอาจ
ไม่ได้อ้างอิงไว้ในเล่ม อย่างไรก็ตามในปัจจุบันนี้เพื่อป้องกันปัญหาของการคัดลอกผลงาน หรือ โจรกรรม
ทางวรรณกรรม (Plagiarism) จึงแนะนำให้รายการที่มีรายละเอียดบรรณานุกรมอยู่ท้ายเล่มต้องมีการ
ิ
้
อ้างอิงในเนื้อหาด้วย ถึงแม้ว่าจะเป็นเนื้อหาที่ผู้เขียนได้เรียบเรียงใหม่แล้วก็ตาม ยังจำเป็นต้องมีการอางอง
แนวคิด/ทฤษฎี/ข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับเอกสารต้นฉบับเหล่านั้นด้วยเสมอ โดยในที่นี้ ผู้เขียนมีข้อเสนอแนะใน
การเขียนบรรณานุกรม ดังนี้
1) หากมีการอ้างอิงในเนื้อหาแล้ว จำเป็นต้องมีรายการบรรณานุกรมท้ายเล่มเอกสารด้วย
2) หากมีรายการบรรณานุกรมท้ายเล่มเอกสารแล้ว ต้องมีการอ้างอิงในเนื้อหาด้วย
3) การเขียนรูปแบบการอ้างอิงในเนื้อหาและรูปแบบการเขียนรายการบรรณานุกรมท้ายเล่ม
เอกสาร ให้เป็นไปตามมาตรฐานที่กำหนด
4) รูปแบบการเขียนอ้างอิงในเนื้อหาและรายการบรรณานุกรมท้ายเล่ม ดำเนินการในรูปแบบ
เดียวกันทั้งเล่มของเอกสาร
ผู้เขียนขอนำเสนอรูปแบบการเขียนการอ้างอิงในเนื้อหาและรูปแบบการเขียนบรรณานุกรมท้าย
เล่ม ที่มีการใช้กันอย่างหลากหลายและเป็นไปตามที่มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์กำหนดให้ใช้ในคู่มือ
ิ
้
ปฏิบัติงาน คือ รูปแบบการเขียนอางองแบบ APA Style เป็นมาตรฐานสากลที่มีการใช้กันอย่างแพร่หลาย
โดยมีหลักเกณฑ์การเขียนต า ม หนังสือ Publication Manual of the American Psychological
Association (7 ed) พิมพ์ครั้งที่ 7 ทำโดย American Psychological Association ซึ่งเป็นฉบับล่าสุดปี
th
พิมพ์ 2020 (อุไร ไปรฮูยัน, 2564) ซึ่งการเขียนผลงานทางวิชาการ มีส่วนของการอ้างอิงแบ่งออกเป็น
2 ส่วน คือ
1) ส่วนอ้างอิงในเนื้อหา (In-text citation) เป็นการเขียนแทรกการอ้างอิงปนกับเนื้อหา มักนิยม
เขียนด้วยระบบ นาม-ปี (Author-Date)
2) ส่วนบรรณานุกรมหรือเอกสารอางอง (Bibliography or References) เป็นรายการทรัพยากร
ิ
้
สารสนเทศที่ปรากฏท้ายเล่มหรือท้ายบทความของงานเขียน โดยจัดเรียงลำดับตามอักษร
ทั้งนี้ผู้เขียนขอสรุปรูปแบบการเขียนอ้างอิงในเนื้อหาและรายการบรรณานุกรมทายเล่มไว้ดังนี้
้
ี
จรงค์ศักดิ์ พุมนวน รวีวรรณ ขำพล และ ทวพงษ์ ยุนุ๊